สกุลเงินเอเชียใน ตลาด Forex ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ เงินเยน (JPY) จากการรายงานล่าสุดของธนาคารเพื่อการชำระเงินระหว่างประเทศ สำหรับตลาด Forex แล้วสกุลเงินญี่ปุ่นนั้นยังคงเป็นสกุลเงินที่มีการซื้อขายมากเป็นอันดับสามของโลก คิดเป็นสัดส่วนถึง 17% ของการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเลย ซึ่ง ณ ตอนนี้เงินเยนได้กลับเข้ามาแทรกแซงตลาด Forex อีกครั้ง ซึ่งอ่อนค่าลงไปกว่า 154.70 ในรอบ 15 ปีเลยทีเดียว ซึ่งก่อนอื่นเรามาดูกันเลยว่า ปัจจัยที่จะสามารถส่งผลต่อค่าเงินเยนได้นั้นจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
ปัจจัยอะไรบ้างที่ส่งผลต่อราคาของ เงินเยน ?
ในตลาด Forex มีหลายปัจจัยพื้นฐานสำหรับทุกสกุลเงินในโลกที่อาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อราคา แม้แต่ ค่าเงินเยน ก็ไม่มีข้อยกเว้น เพราะฉะนั้นมาดูกันว่ามีปัจจัยอะไรบ้างที่ขับเคลื่อนหลักบางประการของเส้นทางเงินเยนในตอนนี้
- นโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น
- ภาวะตลาดการเงิน
- ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ
- ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์
- ค่าเงินเยนกับนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น
เงินเยน (JPY) ถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน ควบคู่ไปกับพันธบัตรรัฐบาล ทองคำ และฟรังก์สวิส โดยปัจจัยที่ทำให้เงินเยนเป็นสินทรัพย์ในยามยากมีดังนี้
- อัตราดอกเบี้ยต่ำมากในญี่ปุ่นเมื่อเวลาผ่านพ้นไป ซึ่งหมายความว่าการซื้อเงินเยนเพื่อต่อยอดในการลงทุนอื่นๆ จะมีราคาถูกมาก
- นักลงทุนญี่ปุ่นมีความเสี่ยงต่อทรัพย์สินต่างประเทศ มากกว่านักลงทุนต่างชาติในทรัพย์สินของญี่ปุ่น ดังนั้นในยามที่ไม่แน่นอน การคืนเงินสดและความต้องการเงินเยนจะเพิ่มมากขึ้น
- ญี่ปุ่นเป็นประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดและพัฒนามากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และระบบเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีเสถียรภาพ ซึ่งสิ่งนี้จะเพิ่มความต้องการพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน
- เงินเยนมีสภาพคล่องสูง ซึ่งเงินเยนนั้นเป็นสกุลเงินที่มีการซื้อขายมากเป็นอันดับสามของโลกเลยทีเดียว
ในปัจจุบัน ตลาด Forex มีความกว้างขวางมากขึ้น ซึ่งมีผู้เข้าร่วมลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในประเทศไทย ที่มีผู้ที่สนใจและลงทุนในตลาด Forex เรื่อยๆ เนื่องจากศักยภาพของตลาดนั้นมีความสูงและเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการจะลงทุนเพื่อมุ่งหวังในการรับกำไร อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ตลาด Forex ซึ่งมาจากการแทรกแซงของญี่ปุ่นลงไปในตลาด ทำให้การลงทุนในตลาดนี้มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอย่างสูงขึ้น
เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา สำนักข่าว CNBC และอินโฟเควสต์รายงานว่า เงินเยนอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 154.70 เมื่อเทียบกับเงินยูโร ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดครั้งใหม่ในรอบ 15 ปี และทำสถิติทรุดตัวลงในสัปดาห์นี้มากที่สุดในรอบ 3 ปีเมื่อเทียบกับยูโร นอกจากนี้ เยนร่วงลง 0.85% สู่ระดับ 141.49 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเงินเยนเคยดิ่งลงทะลุระดับดังกล่าวครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงสิ้นเดือน พ.ค. ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2565 ที่ผ่านมา นายคาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ กล่าวว่า “ในทางทฤษฎี การอ่อนค่าของเยนถือเป็นปัจจัยบวกกับบางภาคส่วน แต่ก็เป็นปัจจัยลบกับอีกหลายภาคส่วน โดยผลกระทบเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับความเคลื่อนไหวของเยนในช่วงเวลานั้น แต่สิ่งที่สำคัญคือค่าเงินควรจะเคลื่อนไหวอย่างมีเสถียรภาพและสะท้อนปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ”
นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า การที่ผู้ว่าการ BOJ กล่าวถึงค่าเงินเยนอย่างเปิดเผย ทำให้นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับการแทรกแซงตลาดครั้งใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงตลาดในเดือนก.ย.2565 ซึ่งเป็นการแทรกแซงครั้งแรกในรอบ 24 ปี ก่อนที่จะเข้าแทรกแซงอีกครั้งในเดือน ต.ค.2565 โดยใช้วงเงินสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 6.35 ล้านล้านเยน (4.3 หมื่นล้านดอลลาร์) หรือราว 1.6 ล้านล้านบาท หลังจากที่เยนดิ่งลงแตะระดับ 151.94 เทียบดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 32 ปี
ในปีที่ผ่านมา (2565) กระทรวงการคลังญี่ปุ่นได้เข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราถึง 3 ครั้ง ด้วยการใช้เงินประมาณ 68,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อทุ่มซื้อเงินเยนในวันที่ 22 ก.ย., 21 ต.ค. และ 24 ต.ค. หลังจากเงินเยนดิ่งลงแตะระดับ 150 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นการอ่อนค่าลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2533 ความเคลื่อนไหวดังกล่าว เป็นการเข้าแทรกแซงตลาดโดยไม่มีการประกาศล่วงหน้า และเป็นการแทรกแซงตลาดในเวลาเดียวกับที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เข้าซื้อเงินเยนจำนวนมากโดยใช้เม็ดเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากทุนสำรอง
นางโจอี้ ชิว หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านปริวรรตเงินตราต่างประเทศของธนาคาร HSBC กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของเงินเยนเมื่อไม่นานมานี้ จะกระตุ้นให้เกิดคำถามว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงตลาดเพื่อพยุงค่าเงินเยนอีกครั้งหรือไม่ “เมื่อพิจารณาจากการที่เงินเยนอ่อนค่าลงทะลุระดับ 140 เยนต่อดอลลาร์ อันเนื่องมาจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ ฉันคิดว่าตลาดจะเริ่มจับตาดูว่ากระทรวงการคลังญี่ปุ่นจะเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราหรือไม่”
แต่ถ้าหากเทรดเดอร์ท่านใดมีความสนใจในการเทรดเงินเยน เราได้รวบรวมกลยุทธ์และเคล็ดลับสำหรับการซื้อขายที่จะส่งผลให้ประสบความสำเร็จมากขึ้นในการเทรดเงินเยน ดังนี้
- สร้างแผนการเทรดอย่างรอบคอบ
- การวิเคราะห์ประสิทธิภาพของ Dollar Index เพื่อดูความแข็งแกร่งของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
- ทดสอบกลยุทธ์การซื้อขายของคุณเพื่อดูว่ามีความน่าเชื่อถือได้มากแค่ไหน
- สร้างกฎการจัดการความเสี่ยงเพื่อช่วยปกป้องเงินทุนของคุณ
- มีวินัยตลอดเวลาในขณะซื้อขาย
ก่อนหน้านี้ เงินเยน อ่อนค่าจนถึงระดับที่ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นใช้มาตรการแทรกแซงตลาดเพื่อพยุงค่าเงินเยน ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นปัจจัยหนุนตลาดหุ้นโตเกียวพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มส่งออกที่ได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินเยน อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลานี้ ธนาคารกลางของญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงยึดมั่นในนโยบายผ่อนคลายการเงินแบบพิเศษ (Ultra-loose Policy) ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก เคล็ดลับการซื้อขาย Forex ทั้งหมดนี้สามารถนำไปใช้กับการซื้อขายเงินเยนหรือคู่สกุลเงินอื่น ๆ ที่สัมพันธ์กับสกุลเงินญี่ปุ่นได้ อย่างไรก็ตาม การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอในแบบ Real-Time เท่านั้นที่จะช่วยให้คุณได้รับประสบการณ์ที่เพียงพอใน ตลาด Forex